เวลาเจ้าของกิจการพูดถึง “วงเงินหมุนเวียน” หรือ “อยากมีเงินกันชนไว้ในบัญชี” คำหนึ่งที่ถูกพูดถึงบ่อยมากคือ
วงเงิน OD, วงเงินเบิกเกินบัญชี, OD คืออะไร, ใช้ยังไงให้คุ้มไม่จมดอกเบี้ย
หลายธุรกิจมี OD อยู่แล้วแต่ไม่เคยได้วางแผนจริงจัง แค่รู้สึกว่า “ดีที่มีสำรองไว้” จนวันหนึ่งมารู้ตัวอีกทีว่า
บัญชีติดลบเต็มวงเงินแทบตลอด
ดอกเบี้ย OD ไหลออกทุกเดือนแบบมองไม่ค่อยเห็นภาพ
จะปิดก็ปิดไม่ได้ เพราะถ้าปิดแล้วเงินหมุนไม่ทัน
บทความนี้จะพาไล่ทีละขั้นว่า
ถ้าอยากดูเปรียบเทียบละเอียดกับเครื่องมืออื่น แนะนำอ่านคู่กับ
เปรียบเทียบ แฟคตอริ่ง vs วงเงินเบิกเกินบัญชี vs สินเชื่อระยะสั้น
และเรื่องพื้นฐานอย่าง
เงินทุนหมุนเวียนคืออะไร ต่างจากกำไรอย่างไร
จะช่วยให้คุณวาง “ระบบเงินหมุน” ของธุรกิจได้ครบยิ่งขึ้นครับ
เริ่มจากคำถามพื้นฐานสุดเลยว่า
วงเงิน OD คืออะไร?
วงเงินเบิกเกินบัญชี คืออะไร? ต่างจากสินเชื่อธรรมดายังไง?
วงเงิน OD (Overdraft) คือ วงเงินที่ธนาคารอนุมัติให้ “บัญชีกระแสรายวัน” ของธุรกิจคุณ สามารถ “ติดลบ” ได้ไม่เกินวงเงินที่กำหนด
เช่น
ธนาคารอนุมัติวงเงิน OD ให้ 1,000,000 บาท
บัญชีคุณสามารถติดลบได้ถึง -1,000,000
ถ้าวันนี้เงินในบัญชีมี 100,000 บาท แต่คุณต้องโอน 300,000 บาท
ระบบจะดึง 200,000 ส่วนที่เกินจากวงเงิน OD ให้โดยอัตโนมัติ → ยอดคงเหลือจะเป็น -200,000
คุณจะจ่ายดอกเบี้ยเฉพาะ
“จำนวนเงินที่ติดลบจริง”
“จำนวนวันที่ติดลบจริง”
นี่คือหัวใจของการเบิกเกินบัญชี: เป็นวงเงินหมุนเวียนที่ให้คุณ “ดึงเงินจากอนาคตมานิดหน่อย” เพื่อไม่ให้ธุรกิจสะดุดระหว่างรอเงินเข้า
ในชีวิตจริง OD จึงเหมาะกับการเป็น
กันชนระยะสั้นระหว่าง “เงินออกวันนี้” กับ “เงินเข้าพรุ่งนี้/อาทิตย์หน้า”
เครื่องมือช่วยจ่ายค่าของ/ค่าใช้จ่ายที่เลื่อนไม่ได้ ทั้งที่เงินลูกค้ายังไม่เข้า
หนึ่งในคำสำคัญของ ดอกเบี้ย OD คือคำว่า “คิดรายวัน”
หลักการโดยย่อคือ
ถ้าวันนี้ยอดบัญชีคุณติดลบ → คิดดอกเบี้ยตามยอดนั้นใน 1 วัน
ถ้าพรุ่งนี้มีเงินลูกค้าเข้า → ยอดติดลบลดลง ดอกเบี้ยก็จะคิดจากยอดใหม่
ยิ่งคุณ “ติดลบหนักและนาน” เท่าไหร่ ดอกเบี้ย OD ก็จะสูงตามนั้น
ในทางกลับกัน ถ้าคุณใช้ OD แค่ “แตะ ๆ แล้วคืน” ดอกเบี้ยก็ไม่โหดอย่างที่หลายคนกลัว
นอกจากดอกเบี้ยรายวันแล้ว บางธนาคารอาจมี
เกณฑ์ขั้นต่ำวงเงินที่ต้องใช้ในรอบระยะเวลาหนึ่ง
หรือค่าธรรมเนียมรายปี/ค่าดูแลวงเงิน
ก่อนเซ็นวงเงิน OD ควรถามให้ชัดว่า
ถ้าไม่ค่อยใช้ OD เลย มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำไหม
มีเงื่อนไขอะไรที่ทำให้ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มหรือไม่
เพื่อจะได้ ใช้ OD ให้คุ้ม ไม่ใช่มีวงเงินแต่แทบไม่ได้ใช้ แล้วต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเปล่า ๆ ทุกปี
ถ้าใช้ให้ถูกโจทย์และมีวินัย วงเงิน OD / วงเงินเบิกเกินบัญชี มีข้อดีหลายอย่างที่ตอบโจทย์ธุรกิจ SME เรื่อง “เงินหมุน” ได้ดีมาก เช่น
1. ยืดหยุ่นสูง ใช้เท่าที่จำเป็น จ่ายดอกเบี้ยเท่าที่ใช้จริง
OD ไม่ได้บังคับให้ใช้เต็มวงเงิน และไม่คิดดอกเบี้ยทั้งวงเงิน
แต่คิดเฉพาะ
จำนวนเงินที่ติดลบจริง
ตามจำนวนวันที่ใช้จริง
ทำให้เจ้าของกิจการสามารถ “แตะวงเงิน” เท่าที่จำเป็น แล้วรีบคืนเมื่อมีเงินเข้า ลดต้นทุนดอกเบี้ยได้มาก ถ้าใช้อย่างมีวินัย
2. เป็นกันชนระหว่าง “เงินออกวันนี้” กับ “เงินเข้าพรุ่งนี้”
หลายธุรกิจต้องจ่าย
ค่าสินค้า/วัตถุดิบ
เงินเดือนพนักงาน
ค่าเช่า และค่าใช้จ่ายประจำ
ก่อนที่เงินจากลูกค้าจะเข้าบัญชี วงเงิน OD จึงทำหน้าที่เป็น “กันชนสั้น ๆ” ไม่ให้ธุรกิจสะดุด เพราะต้องรอเงินเข้า ทำให้จ่ายของ จ่ายคน จ่ายค่าใช้จ่ายคงที่ได้ต่อเนื่อง
3. ไม่ต้องขออนุมัติใหม่ทุกครั้งที่ใช้
เมื่อธนาคารอนุมัติวงเงิน OD ให้แล้ว คุณสามารถใช้–คืน–ใช้–คืน ซ้ำในวงเงินเดิมได้เลย โดยไม่ต้องทำเรื่องกู้ใหม่ทุกครั้งเหมือนสินเชื่อก้อน เป็นข้อดีด้านความคล่องตัวในการบริหารเงินระหว่างเดือน
4. ช่วยให้บริหารเงินทุนหมุนเวียนได้เป็นระบบมากขึ้น
เมื่อธุรกิจเริ่มใช้ OD ควบคู่กับการดู “รอบเงินเข้า–เงินออก” จะทำให้เจ้าของกิจการ
มองเห็น Pattern ของกระแสเงินสดชัดขึ้น
รู้ว่าช่วงไหนต้องเตรียมกันชน
รู้ว่าช่วงไหนควรดันบัญชีให้กลับมาใกล้ศูนย์
ซึ่งช่วยให้การจัดการเงินทุนหมุนเวียน (Working Capital) เป็นระบบกว่าเดิม ไม่ได้หมุนเงินแบบ “ตามน้ำ” เพียงอย่างเดียว
5. ใช้คู่กับเครื่องมืออื่นได้ เช่น แฟคตอริ่ง หรือสินเชื่อระยะสั้น
OD ไม่จำเป็นต้องใช้เดี่ยว ๆ เสมอไป แต่สามารถ
ใช้แฟคตอริ่งดึงเงินจากลูกหนี้การค้าให้เข้ามาเร็วขึ้น
ใช้ OD อุดช่วงสั้น ๆ ระหว่างรอเงิน
การจัดส่วนผสมแบบนี้ทำให้คุณไม่ต้อง “พึ่งหนี้ก้อนเดียวทำทุกอย่าง” แต่ใช้แต่ละเครื่องมือในจุดที่ตัวเองถนัด ช่วยลดความเสี่ยงจมดอกเบี้ยระยะยาว
วงเงิน OD สำหรับ SME จะมีประโยชน์มากถ้าธุรกิจคุณมีลักษณะประมาณนี้
มีเงินเข้า–ออกในบัญชีถี่ (หมุนเวียนประจำ)
รายรับ–รายจ่าย “ไม่ได้เข้าออกวันเดียวกันเป๊ะ ๆ”
บางช่วงต้องจ่ายซัพพลายเออร์ก่อน ทั้งที่ลูกค้ายังไม่ชำระ
ไม่อยากให้การจ่ายเงินเดือน / ค่าน้ำค่าไฟ / ค่าเช่า สะดุดเพราะรอเงินลูกค้าเข้าไม่ทัน
ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้ วงเงิน OD SME แล้วมักเห็นภาพชัด เช่น
ค้าส่ง–ค้าปลีก ที่ต้องสต๊อกของต่อเนื่อง
ผู้ผลิตที่มีรอบจ่ายวัตถุดิบก่อน แล้วค่อยเก็บเงินลูกค้าทีหลัง
ธุรกิจบริการที่มีการจ่ายเงินเดือนและค่าใช้จ่ายคงที่ทุกเดือน แต่รายได้เข้าไม่สม่ำเสมอ
บทความนี้ตั้งใจ “ไม่ลงรายละเอียดเทียบเต็มรูปแบบ” เพราะมีอยู่แล้วใน
เปรียบเทียบ แฟคตอริ่ง vs วงเงินเบิกเกินบัญชี vs สินเชื่อระยะสั้น
ที่เจาะทีละมุมอย่างละเอียดกว่า
ที่นี่ขอให้กรอบคิดสั้น ๆ ว่า
OD เหมาะกับ “หลุมสั้น ๆ ในกระแสเงินสด”
เงินออกก่อน เงินเข้าทีหลัง
ใช้ไม่นาน แล้วคืนเมื่อเงินเข้าบัญชี
เทอมโลน/สินเชื่อระยะยาว เหมาะกับ “เรื่องใหญ่และยาว”
ลงทุนซื้อเครื่องจักร ลงทุนขยายสาขา ซื้อที่ดิน ฯลฯ
มีตารางผ่อนชัดเจนตามอายุสินทรัพย์
ถ้าคุณใช้ OD ไปทำเรื่องที่ควรใช้เทอมโลน เช่น
ใช้ OD ซื้อที่ดินก้อนใหญ่
ใช้ OD ลงทุนเครื่องจักรที่ต้องผ่อนคืนหลายปี
บัญชีจะติดลบยาว และสุดท้าย OD จะกลายเป็น “หนี้ระยะยาวดอกเบี้ยสูง” โดยไม่รู้ตัว
หากคุณกำลังชั่งใจระหว่างใช้ OD หรือสินเชื่อเทอมโลน แนะนำให้ทำลิงก์ภายในไปที่บทความ
เลือกใช้ OD หรือสินเชื่อเทอมโลนดีกว่ากันสำหรับ SME
เพื่อดูตัวอย่างตัวเลขประกอบการตัดสินใจให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ข้อดีใหญ่ของ OD คือใช้บริหาร เงินทุนหมุนเวียน ได้ดี ถ้าเข้าใจหลักการ
หัวใจคือมอง OD เป็น “กันชน” มากกว่า “ก้อนเงินกู้ประจำ”
ลองดูตัวอย่างสถานการณ์การใช้ OD แบบที่ช่วยให้ธุรกิจลื่นขึ้น
วันจ่ายเงินเดือนตรงกับวันที่ยังไม่ได้รับเงินจากลูกค้ารายใหญ่ → ใช้ OD ช่วยจ่ายก่อน พอเงินเข้าแล้วค่อยดันบัญชีกลับ
ต้องจ่ายค่าสินค้าล็อตหนึ่งวันนี้ แต่รู้แน่ว่าอีก 5 วันลูกค้าจะโอนเงินก้อนพอดี → ใช้ OD อุดช่องว่าง 5 วันนั้น
ถ้าใช้วงเงินหมุนเวียน OD แบบนี้เป็นหลัก
ดอกเบี้ยจะถูกคิดจาก “จำนวนวันที่ขาดจริง ๆ” เท่านั้น
ไม่กดดันธุรกิจมากเกินไป
และที่สำคัญ การใช้ OD ร่วมกับเครื่องมืออื่น เช่น
ใช้ แฟคตอริ่ง ดึงเงินจากลูกหนี้การค้าให้เข้ามาเร็วขึ้น
วางโครง เงินทุนระยะสั้น vs ระยะยาว ให้สมดุล
จะช่วยให้โครงสร้างเงินทุนของธุรกิจ “ไม่เอา OD ทำทุกเรื่อง” จนเกินไป
หัวข้อนี้คือจุดที่หลายกิจการพลาดกันบ่อยที่สุด
เพราะเริ่มจากใช้แค่ “นิดหน่อย” สุดท้ายกลายเป็นติดลบเต็มวงเงินแบบถาวร
เราจะใช้โครง H3 ตามไฟล์:
ภายใต้การใช้ OD อย่างมีวินัย:
ตั้งเพดานเบิก
วางแผนปิดดอก
แยกบัญชี
สมมติคุณมีวงเงิน OD 1,000,000 บาท
แทนที่จะคิดว่า “ใช้ได้เต็ม 1,000,000”
ลองตั้งเพดานในใจว่า “จะใช้ไม่เกิน 500,000–700,000 ยกเว้นกรณีพิเศษจริง ๆ”
เพราะถ้าคุณใช้เต็มวงเงินตลอดเวลา
จะไม่มีพื้นที่สำรองไว้เผื่อเหตุฉุกเฉิน
ดอกเบี้ย OD จะสูงต่อเนื่องแบบแทบไม่มีโอกาสหายใจ
การตั้งเพดานโง่ ๆ แต่ได้ผล เช่น “ใช้ไม่เกิน 70% ของวงเงิน”
ช่วยให้คุณระวังตัวโดยอัตโนมัติ
ลองฝึกตั้ง “เป้าหมายบัญชี” ง่าย ๆ เช่น
ภายในสิ้นเดือนนี้ → อยากให้ยอดติดลบเหลือไม่เกินเท่าไหร่
มีเดือนไหนที่ยอดขายดี → ใช้โอกาสนั้นดันบัญชีให้กลับมาเกือบศูนย์ให้ได้
วิธีคิดคือ
OD ไม่ควรติดลบเท่าเดิมทุกเดือน
แต่ควรมีจังหวะ “หายใจ” คือช่วงที่บัญชีกลับมาเป็นบวก หรือใกล้ศูนย์บ้าง
ถ้าผ่านไป 6–12 เดือนแล้วยอด OD ไม่เคยลดลงเลย แปลว่า
คุณอาจกำลังใช้ OD ไปทำเรื่องระยะยาว
หรือโครงสร้างต้นทุน/กำไรของธุรกิจมีปัญหาต้องทบทวน
จุดนี้สามารถโยงไปวิเคราะห์ต่อในบทความ
เงินทุนหมุนเวียนคืออะไร ต่างจากกำไรอย่างไร
และ
แหล่งเงินทุนธุรกิจ SME มีอะไรบ้าง เลือกแบบไหนให้เหมาะ
เพื่อดูว่าควรกระจายแหล่งเงินทุนยังไงดี
อีกจุดที่ทำให้ OD กลายเป็น “หลุม” คือ
ใช้บัญชี OD ปนกับค่าใช้จ่ายส่วนตัว
ถอนเงินสดไปจ่ายเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจเป็นประจำ
คำแนะนำสำคัญคือ
ให้ใช้ OD เฉพาะบัญชีธุรกิจ
แยกบัญชีส่วนตัวออกจากกันชัดเจน
จ่ายเงินเดือน/ค่าตอบแทนตัวเองจากบัญชีธุรกิจไปเข้าบัญชีส่วนตัว แล้วใช้เงินในบัญชีส่วนตัวตามปกติ
แบบนี้จะช่วยให้คุณเห็นชัดว่า
จริง ๆ ธุรกิจต้องใช้ OD เท่าไหร่
ใช้ไปกับค่าใช้จ่ายอะไร
มีช่วงไหนที่ใช้ OD เกินความจำเป็นเพราะดึงไปใช้ในชีวิตส่วนตัว
ถ้าสรุปสั้น ๆ ว่า วงเงินเบิกเกินบัญชี คืออะไร และใช้ยังไงให้ไม่เจ็บตัว
OD คือ “กันชนเงินสด” ระยะสั้น ให้คุณเบิกเกินบัญชีได้ไม่เกินวงเงินที่ธนาคารกำหนด
เหมาะกับการจัดการหลุมสั้น ๆ ในกระแสเงินสด เช่น เงินออกวันนี้ เงินเข้าพรุ่งนี้
ถ้าใช้ถูกจังหวะและมีวินัย → เป็นเครื่องมือบริหารเงินหมุนเวียนที่ดีมาก
ถ้าใช้ผิดวัตถุประสงค์ (ไปทำเรื่องระยะยาว) หรือใช้เต็มวงเงินตลอดเวลา → จะกลายเป็นหนี้ระยะยาวดอกเบี้ยสูงที่กดทับธุรกิจไปเรื่อย ๆ
เพื่อใช้ วงเงิน OD SME ให้คุ้มและไม่จมดอกเบี้ย
ตั้งเพดานใช้ในใจให้ต่ำกว่าวงเงินเต็ม
วางแผนดันบัญชีให้กลับมาใกล้ศูนย์เป็นระยะ
แยกบัญชีธุรกิจ–ส่วนตัวให้ชัด
ถ้าคุณอยากเจาะลึกต่อ
มีบทความลูกอย่าง วงเงิน OD แบบไม่มีหลักประกันสำหรับ SME
บทความเปรียบเทียบอย่าง เปรียบเทียบ แฟคตอริ่ง vs วงเงินเบิกเกินบัญชี vs สินเชื่อระยะสั้น
และบทความโครงสร้างเงินทุนอย่าง เงินทุนหมุนเวียนคืออะไร ต่างจากกำไรอย่างไร และ แหล่งเงินทุนธุรกิจ SME มีอะไรบ้าง เลือกแบบไหนให้เหมาะ
ที่ควรทำลิงก์ภายในไว้ด้วย โดยใช้ชื่อบทความเป็นตัวหนาใน Google Sites ตามแผนในไฟล์ครับ
อ่านมาถึงตรงนี้จะเห็นชัดว่า “วงเงิน OD” เป็นแค่หนึ่งในหลายเครื่องมือด้านเงินทุนหมุนเวียนของธุรกิจ SME และการจะตัดสินใจว่า
ควรใช้ OD แค่ไหน, ควรเสริมด้วยเทอมโลนหรือแฟคตอริ่งหรือไม่, หรือควรปรับโครงสร้างเงินทุนทั้งชุดใหม่เลย — ไม่ใช่เรื่องดูแค่ “ดอกเบี้ยถูก–แพง” แต่ต้องมองทั้งภาพกระแสเงินสด กำไร และหนี้รวมของธุรกิจไปพร้อมกัน
ตรงนี้เองที่บริการที่ปรึกษาด้านจัดหาเงินทุนของ Siam Prime Capital เข้ามาช่วยเจ้าของกิจการมองภาพให้ครบ ก่อนจะตัดสินใจใช้หรือปรับวงเงิน OD ในขั้นต่อไป
ลูกค้าจะได้ประโยชน์อะไรจากการใช้บริการ?
วิเคราะห์โครงสร้างเงินทุนและการใช้ OD แบบรายเคส
ทีมที่ปรึกษาช่วยดูยอดขาย กระแสเงินสด รอบเงินเข้า–เงินออก ภาระหนี้เดิม และพฤติกรรมการใช้ OD ปัจจุบัน เพื่อชี้ให้เห็นว่า
ตอนนี้คุณใช้ OD แบบ “กันชน” หรือ “จมดอกเบี้ย”
วงเงินที่มีอยู่เหมาะกับขนาดธุรกิจหรือสูง/ต่ำเกินไป
ประเมินทางเลือกระหว่าง OD, เทอมโลน, แฟคตอริ่ง และสินเชื่อหมุนเวียนอื่น ๆ
ไม่ได้มองแค่ “เพิ่ม OD ดีไหม” แต่ช่วยเปรียบเทียบให้ว่า
ส่วนไหนควรใช้ OD
ส่วนไหนควรย้ายไปใช้เทอมโลนระยะยาว
ส่วนไหนควรใช้แฟคตอริ่งหรือสินเชื่อหมุนเวียนเฉพาะกิจ
เพื่อให้ภาพรวมดอกเบี้ยและภาระค่างวด “เบาลงแต่ยังหมุนทัน”
วางแผนจัดโครงสร้างเงินทุนหมุนเวียนให้สมดุลในระยะ 6–12 เดือน
วางแผนคร่าว ๆ ว่าใน 6–12 เดือนข้างหน้า
ควรลดภาระ OD อย่างไร
ควรเสริมเงินทุนตัวเองหรือปรับรูปแบบสินเชื่อจุดไหน
ทำอย่างไรให้กระแสเงินสดแข็งแรงขึ้นโดยไม่ต้องกู้เพิ่มเกินจำเป็น
ช่วยเตรียมข้อมูลและเรื่องเล่า (Story) เวลาไปคุยกับสถาบันการเงิน
ตั้งแต่สรุปตัวเลขสำคัญ, ทำภาพรอบเงิน, ไปจนถึงเล่า “เหตุผลของการขอปรับวงเงิน/ปรับโครงสร้างหนี้” ให้เข้าใจง่ายขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสให้ธนาคารเห็นศักยภาพธุรกิจและสนับสนุนวงเงินที่เหมาะสม
ลดภาระงานเจ้าของกิจการที่ต้องวิ่งคุยหลายที่เอง
แทนที่จะต้องลองผิดลองถูกกับหลายธนาคารหลายผลิตภัณฑ์ ทีมที่ปรึกษาช่วยคัดกรองและเสนอทางเลือกที่เข้ากับธุรกิจของคุณมากที่สุด ประหยัดทั้งเวลาและลดโอกาส “เลือกสินเชื่อผิดประเภท” จนกลายเป็นภาระในอนาคต
ถ้าคุณกำลังสงสัยว่า
วงเงิน OD ที่ใช้อยู่ตอนนี้ “เหมาะแล้ว” หรือกำลังจมดอกเบี้ยโดยไม่รู้ตัว
ควรเพิ่มหรือลด OD อย่างไรให้ไม่กระทบเงินหมุน
ควรกระจายไปใช้เทอมโลนหรือแฟคตอริ่งบางส่วนไหม
➡️ คุณสามารถติดต่อ Siam Prime Capital ผ่านเว็บไซต์ เพื่อขอคำปรึกษาเบื้องต้นได้ฟรี
ให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยดูโครงสร้างเงินทุนของธุรกิจคุณแบบเป็นกลาง แล้วค่อยตัดสินใจในก้าวต่อไปด้วยความมั่นใจมากขึ้น
เพื่อให้ข้อมูลในบทความนี้มีฐานอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ และเปิดโอกาสให้ผู้อ่านไปศึกษาเรื่องวงเงิน OD และการบริหารเงินทุนหมุนเวียนของ SME ต่อได้อย่างเป็นระบบ คุณสามารถใส่ลิงก์อ้างอิงไปยังหน่วยงานและบทความต่อไปนี้ (ตั้งเป็นลิงก์ออกภายนอกบนเว็บของคุณ):
ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT)
ข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อธุรกิจ, แนวทางบริหารความเสี่ยงด้านเครดิต, ภาพรวมอัตราดอกเบี้ยและภาระหนี้ของ SME
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
รายละเอียดโครงการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ, มุมมองต่อการใช้สินเชื่อหมุนเวียน/วงเงิน OD เพื่อเสริมสภาพคล่อง
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
รายงานสถานการณ์ SME ไทย, ข้อมูลด้านสภาพคล่อง, เงินทุนหมุนเวียน และปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก–กลาง
สมาคมธนาคารไทย หรือบทความด้านการเงินธุรกิจจากสถาบันการเงินชั้นนำ
บทวิเคราะห์เกี่ยวกับการใช้วงเงิน OD, แนวทางบริหารกระแสเงินสด และตัวอย่างการจัดโครงสร้างสินเชื่อสำหรับ SME